โครงการนวัตกรรมของ Wal-Mart
Wal-Mart ได้รับการยกย่องและจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มียอดรายได้สูงสุดในอุตสาหกรรมค้าปลีกของโลก (เจ้าของสโลแกน Every Day Low Prices หรือ EDLP) และจากหนังสือรายงานผลการดำเนินการประจำปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา บริษัท Wal-Mart มียอดรายได้ทั่วโลกได้สูงถึง 344.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ ประมาณ 11.3 ล้านล้านบาทต่อปี ) มีกำไรสุทธิ 12.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ ประมาณ 4 แสนล้านบาทต่อปี ) คิดเป็นสัดส่วนของกำไรต่อยอดรายได้ (Return on Sales) = 3.5% และจากความสำเร็จที่ผ่านมา CEO ของบริษัท Mal-Mart (Mr. Lee Scott) ได้พยายามทำให้พนักงานทุกคนในองค์กรมีแนวคิดว่า ถ้าหากทุกคนได้ช่วยทำให้ประชาชนซื้อของได้ถูกลง (ประหยัดเงินได้) ประชาชนก็จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจากทุกบาททุกสตางค์ที่ประชาชนประหยัดได้ ก็สามารถจะนำไปจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่จำเป็นอื่นๆให้กับครอบครัวได้มากขึ้น เช่น ค่าเล่าเรียนลูก ค่าอาหาร หรือ ค่าเสื้อผ้า เป็นต้น
และนอกจากแนวคิดดีๆที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว บริษัท Wal-Mart ยังได้มองเห็นความสำคัญในเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เกิดโครงการนวัตกรรมดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากขึ้น โดยการร่วมกับ Suppliers ที่มีกระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งหากผู้บริหารธุรกิจ SME และ ธุรกิจแฟรนไชส์ในบ้านเราได้ศึกษาและเรียนรู้ไว้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของท่านทั้งในปัจจุบันและในวันข้างหน้า อาทิเช่น
โครงการนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พลังงาน (Energy Conservation) ซึ่ง บริษัท Wal-Mart ได้มีการออกแบบหลังคาของห้างแต่ละแห่งให้มีช่องแสง (Skylight) ที่สามารถปรับเปลี่ยนและควบคุมปริมาณของแสงสว่างจากภายนอกให้เข้ามาในพื้นที่ขายได้ (ในเวลากลางวัน) โดยการต่อเชื่อมกับตัวรับสัญญาณที่ติดตั้งอยู่ในแต่ละพื้นที่ มีการใช้หลอดไฟ LED (Light-Emitting Diode) ที่สามารถปิดเองและเปิดเองได้เมื่อมีลูกค้าเข้า-ออกในพื้นที่ และในบางประเทศ เช่น เม็กซิโก มีการรวบรวมน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วนำกลับมาใช้ในระบบสุขาภิบาลและระบบชลประทาน นอกจากนี้ยังมีการแบ่งปันความรู้และเผยแพร่ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองให้กับทุกคนที่สนใจ
โครงการนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ โครงการที่สนับสนุนและผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) มาประยุกค์ใช้ในอุตสาหกรรมค้าปลีก พร้อมกับได้ให้ความช่วยเหลือผลักดันให้มีการกำหนดมาตรฐานของ RFID ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก มีการนำเทคโนโลยีที่สามารถติดตามสถานะของรถขนส่งของบริษัทฯแต่ละคัน (รถ Trailer) ผ่านระบบดาวเทียม (Satellite-based Tracking Technology) ทำให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนลดลง นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างห้องทดลองสำหรับงานด้านนวัตกรรม (Innovation Lab) เพื่อใช้ในการทดสอบงานวิจัยและแสดงตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า รวมถึงการคิดค้นสินค้าใหม่ในอนาคตที่มีคุณค่ากับลูกค้า
โครงการนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนาสินค้าและตราสินค้า (Products and Brands) คือ โครงการที่เน้นเรื่องวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ โดยการแสวงหาสินค้าประเภท เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับบ้าน (Home Products) ที่ทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นเช่น ฝ้าย ไม้ไฝ่ ฯลฯ หรือโครงการที่คิดหาเมนูอาหารที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เช่น คิดเมนู พิซซ่า หรือ ฟายไก่ กึ่งสำเร็จรูปเพื่อให้ลูกค้านำกลับไปอบรับประทานเองที่บ้าน หรือโครงการเพิ่มสินค้าที่เป็น Exclusive Brand มีขายเฉพาะในห้าง Wal-Mart เท่านั้น โดยการร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำของโลก เป็นต้น
โครงการนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการขนส่ง (Logistic) คือ โครงการที่มีการรวมศูนย์กระจายสินค้าที่เก็บสินค้าต่างประเภทกันเข้ามารวมอยู่ด้วยกัน เกิดเป็นศูนย์กระจายสินค้า(Distribution Centers) ในแนวทางใหม่ที่มีสินค้าครบทุกประเภทในที่เดียวกัน ซึ่งเรียกว่าโครงการ “Remix” ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าก่อสร้างศูนย์ฯย่อยๆลดลง โดยการทำงานจะสะดวกและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม สามารถจัดการขนส่งแบบรวมเที่ยวได้ ซึ่งหมายถึงการรวบรวมสินค้าหลายๆประเภทไปส่งในแต่ละพื้นที่โดยใช้รถขนส่งคันเดียวกัน
โครงการนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการสร้างผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (Specialists) คือ โครงการที่สร้างนักจัดซื้อที่มีความรู้ความชำนาญพิเศษ ในการคัดสรรผู้ส่งมอบ(Suppliers) และสินค้าจากทั่วโลกให้ได้อย่างถูกต้อง และมีคุณภาพตรงกับความต้องการของลูกค้าในราคาที่ไม่แพง โดยการตั้งทีมงานที่มีความชำนาญเฉพาะด้านเข้ามาดูแลสินค้าในแต่ละประเภทที่สำคัญๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้า ทีมงานพิเศษนี้ต้องมีความเข้าใจถึงวิธีการและเทคนิคต่างๆที่ใช้ในการผลิต ในการตัดเย็บ ในการพิมพ์ลาย และในการเก็บความเรียบร้อยของชิ้นงาน ขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติของเนื้อผ้าแต่ละชนิด เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าใยสังเคราะห์ ผ้าไหมพรม และผ้าขนสัตว์ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ความมั่นใจว่าลูกค้าของ Wal-Mart จะได้ซื้อสินค้าที่ดีมีคุณภาพในราคาที่คู่แข่งไม่สามารถทำได้
เครดิต : รูปภาพประกอบจาก Internet
ย้อนกลับ